ตลาดซื้อขายนักเตะรอบพิเศษ ในช่วงที่ลีกลูกหนังไทยโดนโควิด -19 พ่นพิษไปด้วยจนทำให้ต้องพักเบรกไปราว 5 เดือนเศษ ก่อนจะคัมแบ็กกลับมาเตะอีกครั้ง ตั้งแต่ 12 ก.ย. 2563 นี้เป็นต้นไปนั้น
ตลาดซื้อขายนักเตะรอบพิเศษ ในช่วงที่ลีกลูกหนังไทยโดนโควิด -19 พ่นพิษไปด้วยจนทำให้ต้องพักเบรกไปราว 5 เดือนเศษ ก่อนจะคัมแบ็กกลับมาเตะอีกครั้ง ตั้งแต่ 12 ก.ย. 2563 นี้เป็นต้นไปนั้น
การย้ายทีมที่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยอีกคน เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก เคสของ “จ่าเย็น” มงคล ทศไกร นั่นเอง ที่ย้ายออกจาก สุโขทัยฯ ไปเป็นสมาชิกใหม่ของ “ช้างขาวเจ้าเกาะ” ตราด เอฟซี นั่นเอง
สำหรับ ตราด เอฟซี นั้นน่าจะเป็นทีมใหม่ที่ทำให้เห็นว่า นักเตะ “จ่าเย็น” เป็นแข้งประเภทจอมพเนจร ไปซะแล้ว
อดีตนักเตะที่เคยผ่านชีวิตต้องสู้เป็นหนุ่มโรงงานมาแล้ว ก่อนจะพรรษากล้าแกร่งดั่งปัจจุบัน จนกลายเป็นแข้งอดีตทีมชาติไทย ที่ชื่อและฝีเท้าคุ้นหูและคุ้นตาแฟนบอลเป็นอย่างดี นั้น ผ่านการเป็นพ่อค้าแข้งมากับหลายสโมสร หลักๆ ที่ชินตาแฟนบอลก็คงจะเป็นอดีตทีมอู่ข้าวอู่น้ำของเขาอย่าง ทหารบก หรือ อาร์มี่ฯ ที่เหลือแค่ชื่อเป็นตำนานไปแล้ว ซึ่งปัจจุบัน “จ่าเย็น” ก็ยังรับราชการอยู่
นับถึงทีมล่าสุด คือ ตราด เอฟซี เท่ากับ ทีม “ช้างขาวเจ้าเกาะ” เป็นทีมที่ 9 ในการเป็นพ่อค้าแข้งของหนุ่มนักเตะจากเมืองหมอแคน ขอนแก่น รายนี้ไปแล้ว
สโมสรแรกของ “จ่าเย็น” ก็คือ ธ.กรุงไทย จากนั้นเป็น ,อาร์มี่ฯ , ปตท.ระยอง , เชียงราย ยูไนเต็ด , เมืองทอง ยูไนเต็ด , พัทยา ยูไนเต็ด , โปลิศเทโรฯ , สุโขทัย ฯ มาถึงล่าสุดคือ ตราดฯ
เรื่องหัวจิตหัวใจการทุ่มเทให้ต้นสังกัดแบบเกินร้อยนั้นเป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษอย่าง “เจ้าเย็น” อยู่แล้ว ไม่รวมถึง ความฟิต ที่ทำให้เขาก้าวติดทีมชาติไทยได้
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า คนอย่าง “จ่าเย็น” จะโดนคำพูดของคนบางคนสบประมาทดูถูกเขา ว่า “มันเล่นฟุตบอลได้แค่นี้ไม่รู้ติดทีมชาติไทย” ได้อย่างไร
“จ่าเย็น” จำคำพูดดังกล่าวได้อย่างดี ด้วยความเป็นที่สุภาพบุรุษพอ “จ่าเย็น” ขอเก็บคำดูถูกดูแคลนดังกล่าวไว้เป็นกำลังใจแรงบันดาลใจให้กับตัวเขาเอง แต่เขาก็อยากจะถามกลับไปยังเจ้าของคำพูดดังกล่าวด้วยว่า คุณน่ะเคยประสบความสำเร็จในการเป็นนักเตะทีมชาติบ้างหรือเปล่า!
อยากรู้ว่าใคร เจอหน้า “จ่าเย็น” ลองถามดูเองก็แล้วกัน
"เย็น" - Google News
September 07, 2020 at 09:56PM
https://ift.tt/3bAgjOj
ใครนะด่าจ่าเย็นติดทีมชาติได้ไง!? - สยามกีฬา
"เย็น" - Google News
https://ift.tt/2VblJHO
Home To Blog
No comments:
Post a Comment