เมื่อเริ่มเข้าหน้าร้อนทุกคนคงต้องการที่จะอยู่แต่ในห้องหรือที่ทำงานแล้วเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำเพื่อดับร้อนใช่มั้ยละ แต่การใช้ชีวิตของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน การจะอยู่แต่ในห้องแอร์ก็คงไม่ดีแน่ ดังนั้นเราจึงนำ 6 วิธีดับร้อนในร่างกายที่ทำแล้วเห็นผลมาฝาก ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง
1.สเปรย์น้ำ
คุณไม่ได้อ่านผิด ใช่แล้วสเปรย์น้ำ ก็คือการนำขวดสเปรย์บรรจุน้ำแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เมื่อรู้สึกว่าร้อนมากๆ ก็นำมาฉีดหน้า คอ หรือตามข้อพับ คล้ายๆ การฉีดด้วยน้ำแร่นั่นเอง ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนได้ดีทีเดียว
2.แปะเจลเย็น
เจลเย็นหรือเรียกง่ายๆ ว่า คูลแพ็ก หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อคล้ายๆ กับตัวแปะลดไข้ แถมราคาไม่แพง ซึ่งช่วยแก้ร้อนได้ทันใจเลยทีเดียว
3.ทานของเย็น
แน่นอนอากาศร้อนๆ แบบนี้ ไอศกรีมสักแท่งหรือที่หาง่ายกว่าก็คือน้ำแข็งใส ย่อมต้องทำให้เราเย็นได้ในทันที ทั้งหวานทั้งเย็น คลายร้อนแถมยังทำให้อารมณ์ดีอีกต่างหาก หรือจะนัดกันกับกลุ่มเพื่อนๆ ไปเดินหาบิงซูหวานๆ ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ก็ไม่เลว เพราะได้ตากแอร์เย็นๆ เดินกันเพลินๆ แถมยังได้ทานของหวานตบท้ายด้วยนับว่าคุ้มค่าทีเดียว
4.อาบน้ำ
ถ้าคุณอยู่ที่บ้านหรือบางออฟฟิศมีห้องอาบน้ำให้พนักงาน เมื่อคุณเจออากาศร้อนๆ มา แนะนำให้อาบน้ำซะ เพราะการอาบน้ำจะช่วยพาเหงื่อที่อับและไอร้อนของร่างกายให้ไหลไปกับน้ำเย็นๆ ยิ่งมีสบู่แบบเย็น หรือยาสระผมแบบเย็นก็ยิ่งทำให้ร่างกายคุณสดชื่นขึ้นไปอีก
5.แป้งเย็นช่วยคุณได้
หลังจากอาบน้ำแล้วแป้งเย็นก็สามารถช่วยให้คุณเย็นจนหนาวได้เลยล่ะ โดยเมื่ออาบน้ำเสร็จเช็ดตัวให้พอหมาดๆ และทาแป้งเย็นลงไป รับรองได้ว่าแอร์ก็แอร์เถอะ เจอแบบนี้เข้าไปสั่นได้เลย และแถมแป้งเย็นปัจจุบันนี้มีหลากหลายยี่ห้อ คุณสามารถเลือกกลิ่นที่ชอบได้อีกด้วย
6.ทานสมุนไพรและอาหารที่มีฤทธิ์เย็น
หน้าร้อนแบบนี้การดื่มน้ำสมุนไพรก็ช่วยได้มาก ทั้งเก๊กฮวย จับเลี้ยง เฉาก๊วย เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์เย็นช่วยให้คลายร้อนจากข้างในได้ทั้งนั้น ส่วนของคาวที่แนะนำคือต้มฟักไก่ เพราะฟักเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็นทานเป็นกับข้าวจะช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เช่นกัน
วิธีต่างๆ ที่เราแนะนำไป ลองนำไปทำกันดู แล้วจะช่วยดับร้อนในร่างกายได้ดีอย่างแน่นอน แถมเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ไม่ยากอีกด้วย
"เย็น" - Google News
June 06, 2020 at 11:00AM
https://ift.tt/2BEaHF3
ร้อนแค่ไหนก็เอาอยู่ กับ 6 วิธีดับร้อนในร่างกายที่ทำแล้วเห็นผล - Sanook
"เย็น" - Google News
https://ift.tt/2VblJHO
Home To Blog
No comments:
Post a Comment